ดนตรีประกอบหนัง
ดนตรีประกอบหนัง ฉากการแสดงบนเวทีของทั้ง Henry และก็ Anne ที่มีผู้ชมแน่นเต็มโรงละครแบบไม่ต้องเว้นระยะ นักร้อง นักเล่นดนตรีร่วมประชันแนวทำนองขับร้องร้องเพลงกันอย่างใกล้ชิด นับเป็นภาพอันเชื้อเชิญให้สะกิดใจสำหรับขณะนี้ปัจจุบันนี้เสียอย่างยิ่ง รวมทั้งที่โดดเด่นที่สุดก็เห็นจะเป็นการวางแบบผู้แสดง ‘ผู้ชม’ ที่มีอีกทั้งปฏิกิริยาต่อมุกขบขันและบทสนทนาปุจฉาต่อ Henry กันแบบพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกันอย่างน่ารัก สำแดง ‘พลัง’ ที่มหรสพการแสดงว่าเคยมีอำนาจต่อความนึกคิดแล้วก็อารมณ์ความรู้สึกของเราได้มากมายเพียงแต่ไหน
พูดได้ว่าเป็นภาพที่เรามิได้สัมผัสกันมายาวนานมากแล้วในห้วงยุคที่การเว้นระยะในที่ชุมชนอย่างทุกๆวันนี้ ส่วนตัวละครบุตรี Annette ตัวหนังก็ได้ออกแบบความพิเศษไว้ให้เป็นอย่างดี ด้วยการอาศัยหุ่นเชิดหน้าตาน่ารักน่าชังมารับหน้าที่ อย่างกับจะประกาศว่าตัวละครนี้ได้รับแรงดลใจสำคัญจากหนังสยองขวัญอย่าง ‘โกรธแค้นฝังหุ่น’ ยังไงแบบงั้น ซึ่งก็สามารถสร้างความพิลึกพิลั่นป่วนปั่นตรรกะแห่งความสมจริงสมจังทั้งหลายแหล่และทำให้หนังมีโภคทรัพย์ของความเป็นเทพนิยายได้มากยิ่งขึ้นยังน้อยเกินไป ความแม่นเป๊ะสำหรับการควบคุมของ Leos Carax สามารถเห็นได้ชัดจากความไหลลื่นกลมกลืนไปกับทำนองเพลงและจังหวะจะโคนของเส้นลายดนตรี
ซึ่งสามารถนำเสนอภาพแหงฝันร้ายคลอไปกับบทเพลงได้จนถึงเปลี่ยนเป็นเนื้อเดียวกัน ลำพังฉากร่าย monologue ของวาทยกรชายหนุ่มร่ำระบายความในใจคราวหลังระหว่างเขากับ Anne ที่ดำเนินไปพร้อมๆกับการซ้อมบรรเลงจริงของวงออร์เคสตร้าก็น่าจะพิสูจน์ได้อย่างแจ่มแจ้งแล้วว่า Leos Carax พิถีพิถันกับทุกจังหวะการกำกับของเขามากขนาดไหน ดนตรีประกอบหนัง ก็เลยไม่น่าประหลาดใจที่สุดด้านหลังเขาจะสามารถเอารางวัลผู้กำกับดีเลิศจากเวทีการแข่งขันเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์มาได้จากหนังเรื่องนี้
Single All The Way (สิงเกิ้ล ออล เดอะ เวย์) ภาพยนตร์เกย์คริสต์มาส
แนวโรแมนติกคอเมดี้เรื่องแรกที่สร้างโดยเน็ตฟลิกซ์ ภายหลังที่ได้เห็นหนังคริสต์มาสของชายหญิงมานักต่อนัก ปีนี้ เน็ตฟลิกซ์เอาใจ LGBTQ+ ชาวรักหลายสีหลากเพศกับเรื่องราวสุดชวนหัวแล้วก็ป่วนปั่นหัวใจในวันคริสต์มาสของเกย์หนุ่มสองคนที่ตัดสินใจพากันไปพบครอบครัวของอีกฝ่าย ก่อนจะพบเรื่องวุ่นวายที่เบาๆขยับหัวใจของพวกเขาให้ใกล้กันมากยิ่งกว่าที่พวกเขาจะเคยล่วงรู้ได้แบบสุดสวิงออลเดอะเวย์ นำแสดงโดย ไมเคิล ยูรี, ฟิเลมอน เชมเบอร์ส, เคธี่ ที่นาจิมี, เจนนิเฟอร์ คูลิดจ์ ศิลปินสาวจาก หนังเก่าดังอย่าง Legally Blonde มาร่วมกันถ่ายทอดความรักโดยละทิ้งซึ่งปมการเปิดตัวที่หนังเกย์อดีตสมัยวนเวียน ให้กลายเป็นรสใหม่ที่กลมกล่อมละมุนละไมอย่างกับโกโก้ร้อนโป๊ะจ้ายด้วยวิปครีมหวานมันชวนฝัน พร้อมเสียงพากย์ไทยคุณภาพ
Green Book (2018)ความชื่นชอบของดนตรีคลาสสิคในตอน 1930-1960
ดนตรีจำพวกนี้มักถูกมองว่าเป็นดนตรีของคนผิวขาว และก็เป็นความนิยมในหมู่คนมีฐานะในสังคมอเมริกา หนังประเด็นนี้ได้ผลิตจากเรื่องจริงของ ดร.ดอน เชอร์ลีย์ นักเปียมีชื่อเสียงสุดยอดผิวสี คนที่อยากพิสูจน์ตัวเองสำหรับในการออกแสดงในเขตอเมริกาใต้ ในสมัยที่ยังมีการเหยียดสีผิวที่ถูกตั้งหลักปักฐานลึก กับ บอดี้การ์ดอิตาลีสุดหยาบจากบริเวณกุ๊ยของนิวยอร์กอย่าง โทนี่ ลิป วัลเลลองก้า ที่ถูกจ้างให้ติดตามดูแล เดินทางโดยมีหนังสือ Green Book ซึ่งเป็นคู่มือของเหล่าคนผิวดำ เพื่อใช้ชีวิตสำหรับในการเข้าพักหรือทานอาหารที่ต่างๆเนื่องจากว่าในสมัยนั้นยังมีการเหยียดสีผิวที่รุ่นแรง หากคุณอยู่ในที่ ที่ไม่ถูกสารภาพในสีผิว คุณอาจถุกทำร้ายด้วยวาจาหรือหนักข้อถึงการจำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายหากคุณมองหาหนังที่สร้างแรงจูงใจสำหรับการพิสูจน์ตนเอง เชื้อชาติ สีผิว ภาษา มันไม่สารมารถผลักรั้งไม่ให้ท่านก้าวไปสู่การบรรลุผลที่คุณต้องการไป สำหรับผู้ใดที่ถูกใจดนตรีคลาสสิคห้ามพลาดอ่อน
Mamma Mia! (2008)ผู้กำกับ : Phyllida Lloydผู้แสดงนำฝ่าย : Meryl Streep, Pierce Brosnan, Amanda Seyfried
เรื่องย่อ : สาวน้อยวัย 20 ปี โซฟี รวมทั้งคู่หมั้นคู่หมายของคุณ สกาย จัดแจงจะสมรสกันที่รีสอร์ทวิลลาดอนนา ในประเทศกรีซ ที่ดำเนินธุรกิจโดย ดอนท้องนา แม่ของคุณเอง โซฟีได้ส่งบัตรเชิญงานสมรสของเธอไปให้ชาย 3 คน เนื่องจากว่าโซฟีได้อ่านบันทึกส่วนตัวของแม่ แล้วก็มั่นใจว่าชาย 1 ใน 3 คนนี้ อาจเป็นคุณบิดาของเธอนักธุรกิจ แซม คาร์ไมเคิล, นักผจญภัย บิลล์ แอนเดอร์สัน แล้วก็นายแบงก์ แฮร์รี่ ไบรต์ เดินทางจาก 3 นครใหญ่ในอีกฟากโลกกลับมาเยือนเกาะสวรรค์ที่นี้ และก็ได้เจอกับสตรีที่เคยทำให้พวกเขาคลั่งไคล้เมื่อ 20 ปีกลาย และความยุ่งเหยิงก็เลยเกิดขึ้นตามมาแค่อ่านเรื่องย่อก็น่าสนุกแล้วสำหรับหนังประเด็นนี้ ดนตรีประกอบหนัง โดยเหตุนั้นใครที่ยังไม่ดูจงรีบหามาดูโดยเร็ว เพราะนอกจากจะได้สนุกสนานไปกับเรื่องราวสุดป่วนปั่น พวกเรายังได้ดูเสียงร้องของนักแสดงที่มิได้เป็นนักร้องอาชีพอีกด้วย แต่เสียงร้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาทุกคนจริงๆ
Singin’ in the rain (1952)ขึ้นแท่นหนังมิวสิคัลในดวงใจของคนทั่วทั้งโลกไปแล้ว
สำหรับ Singin’ in the rain หนังเพลงสุดคลาสสิก ที่เป็นตัวเปลี่ยนแปลงแวดวงภาพยนตร์จากหนังที่เน้นย้ำบทพูดให้แปลงเป็นหนังที่มีสีสันด้วยเสียงเพลงอย่างแท้จริง โดยหนังบอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มดาราที่จะต้องแปลงหนังเงียบของตนเป็นหนังเพลง จนถึงต้องมีการแปลงผู้แสดงให้สมกับหน้าที่และหลงเสน่ห์กันในเวลาถัดมา ประเด็นนี้มีเพลงประกอบอันขึ้นชื่อลือชาอย่าง Singin’ In the Rain ที่ถูกนักร้องแบบใหม่เอามาคัฟเวอร์อยู่เสมอๆแถมอาการการเต้นแท็ปแนวละครเพลงยังช่วยส่งให้กลายเป็นภาพยนตร์อมตะนิรันดรอีกด้วยปีเตอร์ เกย์ชายหนุ่มนักทำโฆษณาดันอกหักจนใจเจ็บเพราะรู้ความจริงว่าผู้ที่คบกันกว่า 4 เดือน มีเมียแล้ว
หนำซ้ำครอบครัวยังตั้งหน้าตั้งตารอคอยเขากับแฟนในวันคริสต์มาส ทำให้ปีเตอร์ไหว้วาน นิค เพื่อนชายเกย์คนสนิทแม้กระนั้นมีคำว่าแค่เพื่อนซี้ติดอยู่บนหัว ประสานมือเดินทางไปที่ภูมิลำเนาของปีเตอร์เพื่อแกล้งว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน ครอบครัวจะได้เลิกเป็นห่วง ทว่าเมื่อไปถึงแผนการทุกสิ่งกลับตาลปัตรเมื่อ แม่ของปีเตอร์ ผู้รักในตัวลูกชายมากไม่ว่าจะเป็นอะไร ตัดสินใจนัดหมายเดทให้ปีเตอร์ กับแจ็ค หนุ่มสุดฮอตรูปหล่อ โปรไฟล์ดี โค้ชผู้ฝึกสอนที่ปีเตอร์ตกหลุมรักเข้าจนได้ ทว่าคนอื่นๆในครอบครัว
ตั้งแต่รุ่นใหญ่ไปจนถึงรุ่นหลานกลับสัมผัสได้ถึงความนึกคิดไม่ซื่อที่นิคมีต่อปีเตอร์ เลยตกลงใจที่จะวางแผนเปลี่ยนแปลงคู่ปลอมให้กลายเป็นคู่เกย์ กับหายนะในงานคริสต์มาสที่กำลังจะออกเดินทางมาถึงในอีกไม่กี่อาทิตย์ ที่ทั้งสองต้องหาทางแก้ไขให้ได้ก่อนที่จะมันจะกลายเป็นความน่าอดสู โดยมิได้รู้เลยว่ามันจะเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของพวกเขาที่มีไปตลอดกาล
MAMA MIA! หนังที่ผลิตมาจากละครเวทีชื่อเดียวกัน โดยได้นำเอาเพลงฮิตของ ABBA
มาเรียบเรียงเป็นเรื่องราวของม่าม้าเลี้ยงลำพังที่เกิดความอลหม่าน เมื่อบุตรสาวที่กำลังจะแปลงเป็นเจ้าสาวจำอยากมีบิดามาร่วมงาน……. ส่วนสำหรับสมาชิกชุมนุมที่ถูกใจตีแตกสัญลักษณ์หนังหรือคุ้ยความหมายเบื้องหน้าเบื้องหลังสิ่งของประกอบฉากทั้งหลาย ก็คงจะสามารถเพลินไปกับการแกะรอยสัญญะสำคัญๆ(motif) ได้ตลอดความยาวของภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็นโทนสีเขียวขี้ม้าเรืองแสง จักรยานยนต์คันยักษ์ แล้วก็เบาะพนักพิงรถลีมูซีน ซึ่งก็เคยแสดงตัวในหนังเรื่องก่อนๆของผู้กำกับ Leos Carax มาแล้วหลายคราว จนถึงผลแอปเปิลสีแดงที่ Anne ถูกใจกัดกินในทุกจังหวะ (โดยไม่ยอมสัมผัสแอปเปิลเขียวซึ่งเป็นสีประจำตัวของผัว) หวีกล้วยหอมสุกเหลืองของ Henry รวมทั้งปานแดงบนแก้มของผู้เป็นบิดา และแผลบนหน้าผากของ Annette เอง ที่คงจะชักชวนให้ติดตามไขปมกันได้สนุกอยู่ไม่น้อยพล็อตที่ขายง่ายทานง่าย
เรื่องราวสหายที่แค่แกล้งรักกันแต่ดันคิดจริง
คล้ายๆหนังวันคริสต์มาสชายหญิงหลายเรื่อง แต่ความพิเศษของประเด็นนี้คือ มันเป็นหนังที่ตัวสำคัญหลักนั้นเป็นเกย์แล้วก็ดำเนินเรื่องร่วมไปพร้อมๆกับบรรยากาศของวันคริสต์มาส แต่พวกเราไม่ต้องมุ่งมาดปมยิ่งนักอะไร ด้วยเหตุว่าเรื่องนี้ปฏฺิบัตำหนิกับตัวเอกที่เป็นเกย์ด้วยความรู้ความเข้าใจที่บางครั้งก็อาจจะไม่ถูกจุดหรือไม่เต็มที่ แม้กระนั้นทุกปัญหาก็แก้ได้ด้วยการสนทนาอย่างเข้าอกรู้เรื่อง ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน มีให้ลุ้นเบาๆบ้าง แต่ว่าทั้งหมดทุกอย่างก็เป็นไปตามสูตรเลยเป็นเพื่อนรักกันแต่ว่ามีเพศชายท่าทางดูดีมาหลงเสน่ห์ เกิดเป็นความวุ่นวาย และก็ตามด้วยพ่อสื่อแม่สื่อจนไปถึงหลานสื่อที่มานะทำทุกสิ่งเพื่อจับคู่เพื่อนรัก ดนตรีประกอบหนัง แม้กระนั้นก็พบว่ามันไม่ง่าย โชคดีที่ไม่มีอะไรให้หงุดหงิด บทค่อนข้างเรื่อยๆสบายๆจนถึงแอบเบื่อบ้าง แต่ว่ามันดูแล้วรู้สึกผ่อนคลาย ไม่มีอะไรต้องเครียด
เหมือนพวกเรามาคอยลุ้นว่าเพื่อนที่ดีพร้อมสองคนจะได้รักกันมั้ย ตลอดเรื่องก็เลยกำเนิดเป็นโมเมนต์ที่สวยและก็เชิญตื้นตันโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงท้ายที่ไม่ต้องอุตสาหะปั้นแต่งบทให้เกิดความสวยสดงดงามหรู เพียงแค่ให้มันเป็นธรรมชาติก็รู้สึกได้ว่าเน็ตฟลิกซ์รอบนี้ส่งเสริม LGBTQ+ จริงๆแบบไม่ต้องให้เป็นตัวสมทบ แต่ว่าพวกเขาคือนักแสดงหลักไม่มีความแตกต่างกับหนังรักชายหญิงเลย เชื่อว่าครอบครัวได้มองพร้อมกันอาจจะรู้สึกอิ่มเอมไปกับความน่ารักน่าเอ็นดู ขบขันเบาๆไม่ต้องกลัวเรตหนัก เนื่องจากว่ามีแต่ว่าการแสดงความรักและรายละเอียดที่เป็นมิตรกับทุกคนจริงๆไม่ได้ขัดขวางว่าจะเป็นเพศไหน ผมเชื่อว่าหนังหัวข้อนี้เป็นมิตรกับทุกคนได้ แต่ด้วยความสบายๆของเรื่องราวก็คงจะไม่ใช่หนังระดับรางวัล แต่มอบความสนุกสนานให้อย่างเต็มเปี่ยม
My Fair Lady ภาพยนตร์มิวสิคัลในตำนาน
หนึ่งในผลงานเด่นของ Audrey Hepburn ที่เป็นเรื่องราวของสาวขายดอกไม้ที่ชีวิตเปลี่ยนจำเป็นต้องมาดำรงชีวิตในสังคมชั้นสูง…. ถึงตัวบทจะไม่ได้มีความซับซ้อนในเชิงจิตวิทยาอันจะเป็นภาระในการค้นคว้าตีความของดาราหนังเท่าไรนัก แต่ว่าปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการแสดงในหน้าที่ต่างๆของหนังเพลงจำพวกประหลาดอย่าง Annette ประเด็นนี้อาศัยวิธีการแสดงที่สันทัดอยู่ไม่น้อยเลยเหมือนกัน ดนตรีประกอบหนัง โดยเฉพาะความสามารถด้านการตะโกนไปแสดงไป เนื่องจากว่าดาราจำเป็นที่จะต้องแสดงบทบาทที่สวมอยู่ ช่วงเวลาเดียวกันก็จำต้องรักษาแนวเสียงของตัวเองในช่วงที่กำลังประสานทำนองกับคนอื่นๆไว้ด้วยด้วยเหมือนกัน
Sing Street (2016)ร้องเพลงจีบสาว สู่การเป็นวงดนตรีดังประจำเมือง มั่นใจว่านักเล่นดนตรีผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยจุดเริ่มแรกของการเล่นดนตรีผู้คนจำนวนมาก คงเป็นการเล่นดนตรีเพื่อโชว์ผู้หญิงเป็นอย่างแน่ หนังเรื่องนี้มันจะทำให้คุณย้อนวัยกลับไปสู่ช่วงอันหอมหวานของ First Love ที่คุณอาจจะลืมมันไปแล้วCornor ลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว ที่จำเป็นต้องย้ายจากสถานที่เรียนดีๆมาอยู่สถานที่เรียนไม่ดีๆแต่ว่า “ ในเรื่องห่วยแตกๆมักมีสิ่งที่ดีเสมอ”เมื่อ Cornor พบหญิงกำลังยืนอยู่หน้าสถานศึกษา
เธอสวยเช่นเดียวกันกับนางแบบที่ออกมาจากแมกกาซีน Cornor ไม่คอยช้าที่จะเข้าไปคุยและเชื้อเชิญเธอมาเป็นนางเอก MV ทำให้เรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มได้เริ่มขึ้น คุณจะได้เห็นเรื่องราวกระบวนการทำวงดนตรีของเหล่าสมาชิก ดนตรี ประกอบหนัง แล้วก็มันจะให้คุณคิดถึงการฝึกฝนเล่นดนตรีของคุณอย่างแน่แท้ หนังจะมีฉากของเรื่องราวยุค 80s ที่งดงามและเพลงประกอบจากวงดนตรีดังมากมายคนไหนที่ถูกใจความกระหนุงกระหนิงและก็มีกลิ่นอายของดนตรีสมัย 80s ห้ามพลาดเด็ดขาด
Whiplash ตีให้ลั่น เพราะว่าฝันยังไม่จบเรื่องของชายหนุ่มผู้ใฝ่ฝันอยากจะบรรลุเป้าหมายในฐานะมือกลอง
และได้เจอกับครูสอนดนตรีที่กำลังฝึกหัดวงแจ๊สออร์เคสตร้าเข้าประกวด แม้กระนั้นกระบวนการฝึกของอาจารย์คนนี้ค่อนข้างจะเครียด เข้มข้น แล้วก็รุนแรงอยู่สักหน่อย เพื่อเคี่ยวกรำให้ศิษย์คนนี้รีดพลังและก็ความสามารถออกมาให้เต็มกำลังหนังดราม่าของคนรักกลองชุดที่เดินเรื่องอย่างระทึกรัวเหมือนกับหนังแอคชั่น ชนิดที่นั่งลุ้นแทบจะไม่ติดเบาะ หัวใจเต้นระทึกตามจังหวะกลอง เรียกว่า “ลุ้นกันจนหยดในที่สุด”
โปรโมชั่น
สมัครใหม่ฝาก 300 รับ 400 บาท ฝาก 500 รับ 700 บาทTurn Over 5 เท่า
โปรย้ายค่าย รับโบนัส 100% ของยอดฝาก
ฝากแรกของวัน รับโบนัส 5% สูงสุด 1,000 บาท Turn over 10 เท่า
เพื่อนฝากครั้งแรกรับ 20% สูงสุด 300 บาท
คืนยอดเสีย 4.8% สูงสุด 7,000 บาท
สอบถามข้อมูล ได้ที่ Line @viewbet369

https://www.bellybuttonringsandthings.com/